

มองไปทางไหนก็เห็นแต่ไม้กิ่งแห้งๆเหมือนยืนต้นตาย ทั่วไปหมด....อากาศก็แสนจะหนาวปวดตับ

มาปารีสคราวนี้เป็นหน้าหนาว สุดสะท้านทรวง...ที่อุณหภูมิ -2องศา เดินจากโรงแรมไปออฟฟิต ประมาณ500-600เมตรเท่านั้นเอง แบบเดินเร็วมากค่ะ หนาวจนก้าวขาแทบไม่ออก ช่วงนี้พีคที่สุดของหน้าหนาวแล้ว เดือนกุมภาพันธ์..หิมะเพิ่งจะค่อยละลาย ถ้าไม่จำเป็น แนะนำว่าอย่ามาเลย


นี่คือออฟฟิต..ถึงซักที..เฮ่อ...
หลังจากเสร็จการงานจะพาไปเดินชมขนมสวยๆก่อนตามธรรมเนียม แล้วต่อด้วย
ขนมมาการอง ขั้นเทพจากร้านลาดูเร่

Lost in Lourve
ย่ำต๊อกไปในย่านศิลปิน มองมาร์ต

และช็อปปิ้งวินโดว์ที่แพรงตอนกับแกรอลี่ราฟาเยต




ห้องพักที่โรงแรม มีระเบียงเอาไว้นั่งเล่น มองไปเห็นหอไอเฟลอยู่โน่นนะ แต่อย่าออกไปนั่งเลยจะดีกว่า ปอดจะบวมตายเอาเปล่าๆ เอาไว้นั่งชิลล์ๆในหน้าร้อนจะเหมาะกว่า

อันนี้ล็อบบี้เล็กๆแต่ว่าluxuryพอใช้ หิวแต่เช้าไปทานขนมร้านไม่มีชื่อมีเสียงกันก่อน
ร้านขนมในปารีส โดยมากจะแยกเป็นร้านขนมอบกับร้านขนมปังนะคะ แต่ร้านนี้เป็นคาเฟ่ที่ขายทั้ง2อย่าง

มาการองยักษ์ มีขายทั่วไปหมดแหล่ะนะ แต่เราไม่ทาน ( ไม่มีชื่อเสียง อิอิ...เก็บเงินไว้ไปทานที่ลาดูเร่ดีกั่วนะ )



เอแคล์เยอะแยะ ทาร์ตมากมาย โดยมากอร่อยค่ะ ไม่หวานเท่าไหร่นะ จิ้มไปเถอะไม่ค่อยผิดหวังหรอกชีสเค้กชิ้นโต ไม่ต้องกลัวอ้วนนะเพราะกินเสร็จแล้ว เราจะเดินๆๆๆๆๆทั้งวัน จนเผาผลาญหมดเลย

ขนมปังเปลือกแข็งที่เคยชอบเวลาอยู่บ้าน มาที่นี่เคี้ยวกันปวดเหงือกไปเลย แข็งได้ใจดีจริงๆ



กองทัพขนมปัง...ที่กินอยู่หลายวัน และเข้าวันที่4เริ่มมองหาข้าวค่ะ555555
....
นั่งมองออกไปนอกร้าน เราสั่งกาแฟเอสเปรสโซเข้มข้นถ้วยจิ๋วมาทานกับเอแคล์และทาร์ตสตรอแบรี่



เบ็ดเส็ด2คน8ยูโร


เป็นแอเคลล์ที่ควรค่าแก่การเสียเงิน

เสร็จแล้วไปเดินตากลมให้เป็นหวัดเล่นที่ลูฟค่ะ....ไปตามหาโมนาลิซ่ากัน เป็นสถานที่ที่มีรายละเอียดมากมายและคนที่รักศิลปะไม่ควรพลาดเลย อย่างยิ่ง แม้จะเข้าคิวโต้ลมหนาวและคิวก็แสนยาวเหยียด ก็ถือว่าสมควรไปชมงานศิลปะระดับโลกที่สำคัญๆหลายชิ้น รวมอยู่ที่นี่ค่ะ


ส่วนนี้จะแยกอีกบล็อกนึงดีกว่าเพราะข้างในก็ถ่ายรูปได้เยอะเลย

เอารูปที่แถวมองมาร์ตมาอ่อยเหยื่อไว้ก่อนน๊า....แล้วค่อยเขียนต่อ โปรดติดตามตอนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น