วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Popang go Japan ตอนที่5 ฮัลโหลโตเกียว



มาถึงโตเกียว วัดอาซากุซะ ใครๆเขาก็ต้องมากันที่วัดนี้...เรื่องของการไหว้พระเราจะขอข้ามไปอย่างรวดเร็ว.....เพื่อไปที่การช็อปปิ้งค่ะ...5555










เป็นวันที่อากาศไม่เป็นใจ....ฝนตกพรำทั้งวันค่ะ





ไปดูย่านช๊อปปิ้งชื่อดังคือชินจูกุกันก่อนนะ..เป็นย่านที่มีคนพลุกพล่านมากๆเลยค่ะ เต็มไปด้วยคนๆๆๆๆและคน ตัดกันที่ตรงแยกถนน เต็มไปด้วยฝูงชน ไม่รู้มาจากไหนกัน ...จะว่าไปก็คล้ายแถวย่านไทม์สแควร์ของฮ่องกงและอีกหลายเมืองใหญ่ๆในโลก

ดูการแต่งตัวของสาวๆหนุ่มๆที่นี่แล้วก็มันดีเหมือนกันค่ะ ไม่มีคำว่าแปลกที่นี่ค่ะ ใครใคร่ใส่อะไรใส่เลย...เรามาที่อิเซตัน ไปร้านคิโนคูนิยะ ร้านทัตซึทาย่าซึ่งมีอยู่ถึง8ชั้น โรงแรมปรินซ์ก็มี8ชั้นค่ะ บนชั้น8มีร้าน100เยนทั้งฟลอร์ เดินกันไม่หวาดไม่ไหว
ชอบเสื้อผ้าที่ร้านมูจิ เรียบๆเรื่อยๆ ใส่ได้นาน ...ยูนิโคลราคาเป็นกันเองมากๆ แต่แบบเรียบไปหน่อย...ซื้อจุ๊กๆจิ๊กๆ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันค่ะได้หนังสือเย็บกระป๋าแบบควิวญี่ปุ่นที่พี่เหมียวฝากซื้อกับหนังสือขนมของตัวเอง3เล่ม ซีดีวงอาราชิของพี่ฮุ้ง กระเป๋าของแม่...ชาดอกไม้และขนมเจลลี่บีน จากมูจิฟู๊ด..เจลลี่บีนที่นี่อร่อยไม่เท่าที่เคยทานตอนเด็กๆ จะมีรสเปรี้ยวมากกว่านี้หน่อย
ขนมที่อร่อยมาอีกอย่างหนึ่งที่มูจิคือมัฟฟิ่นรสส้มกับรสเลม่อนค่ะ คู่ละ189 เยน นุ่มและหอมที่สุดในโลก....







ขนมหรืออาหารในร้านสะดวกซื้อนั้น ( บางอย่าง )อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ....ถ้าต้องหาข้าวทานเองมื้อเย็นแบบประหยัด ก็ลองเตร่ๆดูได้ ( ไดฟุกุที่เอเอ็มพีเอ็มถูกใจที่สุด...แป้งไม่หนาหรือบางเกินไป มีถั่วเม็ดเป้งๆปนอยู่ด้วย บางร้านจะออกเหนียวพันคอไปหน่อย )แต่เราทานข้าวเย็นในย่านชินชูกุแบบสนุกๆกันค่ะ...โดยการเข้าไปทำเปิ่นในร้านขายบะหมี่หลังอิเซตัน

คือว่าเราไม่รู้นะคะ เดินเข้าไปจะสั่งอาหาร คุณลุง2คนหลังบาร์ก็บุ้ยบ้ายทำมือเป็นรูปสี่เหลี่ยมยาวๆ พร้อมกับบอกว่า " ชิกเก็ต "
พูดกันกับคุณน้าว่า
"แหมดีจังอุตส่าห์บอกว่าเป็นไก่....คนไม่กินเนื้ออย่างน้าก็สบายเลย ขอบคุณนะคะ "เปล่าค่ะ คุณลุงยังคงใช้ภาษามือต่อไป พร้อมกับพูดซ้ำๆคำเดิม
" ชิกเก็ต ๆๆๆๆๆๆๆ"
" เอ๋....สงสัยบอกว่านักเก็ตมั้งคะ เป็นชิ้นๆ ดีๆชอบๆ "
ยังคงเปิ่นต่อไปอีก คือคุณลุงแกต้องผายมือไปนอกร้านเพื่อบอกให้ไปหยอดตู้ เอา TICKETมาส่งให้แกที่บาร์ ถึงจะได้กินค่า.....โฮ่ะๆๆๆๆๆๆโชว์โง่ได้อีกเรา.....



ตู้ที่ว่า.....หยอดเงินเข้าไป กดจิ้มเมนูที่เราเลือกโดยดูที่ราคาเป็นหลักค่ะ เพราะในรูปจะมีราคาติดอยู่ ก็กดตัวเลขนั้นๆที่ต้องการ







ของกินจากร้านสะดวกซื้อ และชีสเค้กที่นุ่มเบาอร่อยมากๆ



นอกจากนั้นยังได้ลองใช้รถไฟใต้ดิน เดินทางไปยังฮาราจูกุและชิบูย่าด้วยกินซ่าไลนน์ ดูป้ายไว้ไม่มีหลงแน่นอนค่ะ มีความสะดวกสบายและรวดเร็วดีมาก นั่งจากสถานนีวัดอาซากุซะไป เปลี่ยนสาย1ครั้ง นั่งต่ออีก1ป้ายก็ถึง แต่พอดีเป็นวันที่ฝนตกค่ะ ฮาราจูกุเลยไม่คึกคักเท่าที่ควร















มาถึงญี่ปุ่นแล้วอย่าลืมหาโอกาสทานมันเผานะคะ ทานร้อนๆ หวานอร่อยมากๆ ที่เมืองไทยเห็นมีขายที่เอ็มโพเรียมชั้นซุปเปอร์มาร์เก็ตค่ะ..ราคาจำไม่ได้แน่นอน แต่เลาๆว่าคงในราว30-50บาท หน้าตาเหมือนที่ญี่ปุ่นเป๊ะเลย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น